ห้องนอนที่มีต้นไม้สำหรับฟอกอากาศอยู่ภายในห้อง

ต้นไม้ฟอกอากาศในห้องนอน ปลูกอะไรดี? ได้ผลแค่ไหน?

by Peemanus Tongpiem / สิงหาคม 22, 2025

ต้นไม้ฟอกอากาศในห้องนอน เป็นคำค้นยอดฮิตของคนรักสุขภาพและแต่งบ้านสไตล์กรีน หน้าฟีดเต็มไปด้วยลิสต์ “10–20 ไม้ฟอกอากาศ” ที่ช่วยดูดสารพิษ แต่คำถามสำคัญคือ—ในโลกความเป็นจริง ต้นไม้ฟอกอากาศ ช่วย “ลดมลพิษภายในห้อง” ได้แค่ไหนกันแน่? บทความนี้สรุปให้ครบตั้งแต่หลักฐานวิทยาศาสตร์ ข้อจำกัด วิธีเลือก ต้นไม้ปลูกในห้องนอน อย่างเหมาะสม ไปจนถึงเคล็ดลับทำให้ห้องนอนอากาศดีขึ้นจริง พร้อมแนะนำ ไม้ฟอกอากาศในห้องนอน ที่ดูแลง่ายสวยงาม

สรุปสั้น ๆ: “ปลูกต้นไม้ในห้องนอน” มีข้อดีเรื่องบรรยากาศและความสุข แต่ถ้าพูดเรื่อง “ฟอกมลพิษในบ้าน” อย่างจริงจัง การระบายอากาศและการกรองด้วย HEPA ให้ผลชัดกว่า ต้นไม้คือ ส่วนเสริม ที่ดี ไม่ใช่ตัวหลัก


ต้นไม้ฟอกอากาศฟอกได้จริงหรือเปล่า

  • งานที่ถูกอ้างอิงบ่อยคือ NASA Clean Air Study (1989) พบว่าพืชกระถางหลายชนิดลดสารระเหย (VOCs) ในสภาพแวดล้อมปิดผนึกได้ อย่าง เบนซีน ฟอร์มาลดีไฮด์ ไตรคลอโรเอทิลีน ฯลฯ จึงเกิดความเชื่อเรื่อง “ไม้ฟอกอากาศ” ที่แพร่หลายมาจนวันนี้
  • แต่ในบ้านจริง มีการถ่ายเทอากาศตลอดเวลา ทำให้ผลทดลองในห้องปิดของ NASA ใช้คาดการณ์กับบ้านทั่วไปไม่ได้ และหากจะให้ได้ผลเทียบเท่า ต้องใช้ “จำนวนต้นไม้จำนวนมากผิดปกติ” ต่อพื้นที่จึงจะเห็นผลด้าน VOCs อย่างมีนัยสำคัญ (รีวิวงานวิจัยสมัยใหม่ชี้เช่นนั้น)
  • US EPA ระบุชัดว่า “ยังไม่มีหลักฐานว่า ‘จำนวนต้นไม้ที่สมเหตุสมผล’ จะลดมลพิษในบ้านได้อย่างมีนัยสำคัญ” พร้อมเตือนการรดน้ำมากไปอาจเพิ่มความชื้น/เชื้อราในดิน ซึ่งกระทบคนแพ้ง่ายได้
  • ด้านยุโรป งานร่วมของ RHS/University of Birmingham (2022) ชี้ว่าต้นไม้ อาจลดบางมลพิษได้ หาก “เงื่อนไขแวดล้อมเหมาะสม” (ชนิดพืช จำนวน อัตราระบายอากาศ) นั่นคือ “เป็นไปได้” แต่ขึ้นกับบริบทจริงมาก
  • ส่วนเงื่อนไขสุขภาพในบ้าน WHO แนะนำให้จัดการมลพิษภายใน (เช่น ฟอร์มาลดีไฮด์, NO₂, CO, PAHs ฯลฯ) ด้วยการ ควบคุมแหล่งกำเนิด + ระบายอากาศ เป็นฐานหลักของคุณภาพอากาศในอาคาร

บทสรุปเชิงหลักฐาน: “ไม้ฟอกอากาศ” มีศักยภาพด้าน VOCs ในห้องปิด แต่ในบ้านปกติผลมักเล็กน้อย ต้นไม้จึงเหมาะเป็น ส่วนเสริมเพื่อคุณภาพชีวิต/ความผ่อนคลาย/ความชื้นสมดุล ขณะที่ตัวแปรหลักในการทำให้ อากาศดีขึ้นจริง คือ ลดแหล่งกำเนิด + ระบายอากาศ + เครื่องฟอกอากาศ HEPA (ดูหัวข้อเคล็ดลับท้ายบท)


เลือกต้นไม้ฟอกอากาศในห้องนอนอย่างไรให้คุ้มค่า

เมื่อเข้าใจข้อจำกัดแล้ว เป้าหมายของเราในการเลือก ต้นไม้ปลูกในห้องนอน คือ:

  1. ปลอดภัย ดูแลง่าย เข้ากับแสงและอุณหภูมิห้องนอน
  2. เพิ่มความสบายตา ลดความเครียด/ความกังวล
  3. ช่วย “ปรับสมดุลความชื้น” เบา ๆ (แต่ไม่ชื้นเกินไป)

หลักการเลือก:

  • แสงน้อย–ปานกลาง: เลือกไม้ใบเขียวทนร่ม, “ไม้ฟอกอากาศในบ้าน” ที่อยู่ได้ใกล้หน้าต่างแสงรำไร
  • ดินระบายน้ำดี: ลดโอกาสเกิดเชื้อรา/กลิ่นอับ
  • รดน้ำพอดี: หลายชนิดชอบปล่อยดินแห้งก่อนค่อยรด
  • ระวังสัตว์เลี้ยง/เด็กเล็ก: บางชนิดมีพิษหากกินใบ—เลือกชนิดปลอดภัยหรือจัดวางให้พ้นมือ

ต้นไม้ฟอกอากาศในห้องนอนที่ดูแลง่าย เหมาะกับมือใหม่


ภาพห้องที่มีต้นไม้
  1. ลิ้นมังกร (Snake Plant, Sansevieria)
    ราชาไม้ทนมือ ชอบแสงน้อย–ปานกลาง ทนแล้ง ปล่อยให้ดินแห้งแล้วค่อยรด เหมาะวางมุมหัวเตียง/ริมหน้าต่าง
  2. พลูด่าง/เดฟ (Pothos/Devil’s Ivy, Epipremnum aureum)
    เถาเลื้อยดูแลง่าย โตไว ห้อยได้ ประหยัดพื้นที่ วางสูงหลบสัตว์เลี้ยงได้ดี
  3. เขียวหมื่นปี (Aglaonema)
    ลวดลายใบสวย อยู่ร่มได้ดี รดน้ำสม่ำเสมอแต่ไม่แฉะ ใบเงางามช่วยเติมความสดชื่น
  4. เศรษฐีเรือนใน (Spider Plant, Chlorophytum comosum)
    ทนทาน เลี้ยงง่าย แตกหน่อไว แสงรำไร–ปานกลาง วางชั้น/แขวนได้
  5. ยางอินเดีย (Rubber Plant, Ficus elastica)
    ใบใหญ่โทนเข้ม สไตล์มินิมอล ต้องแสงปานกลาง–สว่าง รดน้ำพอดี ไม่ชอบดินแฉะ
  6. เดหลี (Peace Lily, Spathiphyllum)
    ชอบชื้นปานกลาง แสงรำไร ดอกขาวเรียบหรู เพิ่มฟีลโรงแรมสบายตา
  7. โกสน/ฟิโลฯ ใบใหญ่ (Philodendron spp.)
    สไตล์ทรอปิคัล ใบสวยเติมมิติให้ห้อง แสงปานกลาง–สว่างทางอ้อม
  8. กวักมรกต (ZZ plant, Zamioculcas zamiifolia)
    ที่สุดของความทน ห้องแสงน้อยก็อยู่ได้ รดน้ำน้อยมาก เหมาะคนยุ่ง
  9. มอนสเตร่า (Monstera deliciosa)
    ใบเจาะไอคอนิก เหมาะห้องสว่างทางอ้อม รดน้ำพอดี เพิ่มความชิคให้มุมพักผ่อน
  10. ไทรใบสัก (Fiddle Leaf Fig, Ficus lyrata)
    สายแต่งบ้านชอบ แต่ต้องการแสงสว่างทางอ้อมดี ๆ รดน้ำเป็นระบบและหมุนกระถางให้รับแสงทั่ว

หลายชนิดในลิสต์นี้เป็นหนึ่งใน “รายชื่อไม้ฟอกอากาศ” ที่เคยถูกศึกษาในงาน NASA ปี 1989 (เช่น ลิ้นมังกร เดหลี ไทร เบญจมาศ ปาล์มไผ่ ฯลฯ) แม้ผลจะจำกัดในบ้านจริง แต่ถือเป็น “ตัวเลือกไม้ใบสำหรับห้องนอน” ที่ได้รับความนิยมสูงเพราะ สวย อยู่รอดง่าย และช่วยให้ห้องดูผ่อนคลายมากขึ้น


จัดวางต้นไม้ในห้องนอนอย่างชาญฉลาด

  • ตำแหน่งรับแสงทางอ้อม: ใกล้หน้าต่าง/ม่านโปร่ง หลีกเลี่ยงแดดตรง
  • เว้นที่ให้ลมไหล: ไม่ติดผนัง/หัวเตียงจนแน่น ลดความอับชื้น
  • กระถางและดิน: ใช้กระถางมีรูระบายน้ำ ดินโปร่ง (ผสมเพอร์ไลต์/พัมมิซ)
  • กฎทองการรดน้ำ: แตะดินแล้วแห้งค่อยรด อย่าให้ชุ่มแฉะ
  • เช็ดใบสม่ำเสมอ: ฝุ่นจับบนใบทำให้สังเคราะห์แสงน้อยลง และดูหม่น

ทำอย่างไรให้อากาศ “ดีจริง” ในห้องนอน

ห้องนอนที่มีต้นไม้สำหรับฟอกอากาศอยู่ภายในห้อง และมีเครื่องฟอกอากาศตั้งอยู่ข้างเตียง
  1. ควบคุมแหล่งกำเนิดมลพิษในบ้าน
    เลี่ยงสเปรย์/น้ำหอมที่มี VOCs เข้มข้น เลือกวัสดุตกแต่ง/เฟอร์นิเจอร์ที่ปลอดฟอร์มาลดีไฮด์ (ดูแนวทางสารมลพิษในอาคารจาก WHO)
  2. ระบายอากาศอย่างฉลาด
    เปิดหน้าต่างช่วงอากาศภายนอกดี ใช้พัดลมช่วยไหลเวียน หรือพิจารณาชุดกรองอากาศเชื่อมระบบปรับอากาศตามความเหมาะสม (หลักการ EPA เน้นระบายอากาศ/การกรอง)
  3. ใช้เครื่องฟอกอากาศ HEPA ที่เหมาะกับขนาดห้อง
    ติดตั้งเครื่องฟอกอากาศที่มีแผ่นกรอง HEPA สำหรับฝุ่นละเอียด และคาร์บอนสำหรับกลิ่น/ก๊าซ วางตำแหน่งให้ลมหมุนเวียนได้ดี
  4. วัดผลจริงในห้อง
    ใช้ เครื่องวัดคุณภาพอากาศในบ้าน เพื่อรู้ค่า PM2.5/PM10 และความชื้นแบบเรียลไทม์ แล้วปรับการระบายอากาศ/เปิดเครื่องฟอกอย่างเหมาะสม

ข้อดีของต้นไม้ฟอกอากาศในบ้าน

แม้ประสิทธิภาพ “ฟอกอากาศ” ในบ้านจริงจะจำกัด แต่ ไม้ฟอกอากาศในห้องนอน ยังมีข้อดีที่มีงานศึกษารองรับ:

  • ช่วยผ่อนคลายความเครียด/ลดความกังวล เพิ่มความสุขทางใจ
  • เพิ่มความชื้นสัมพัทธ์เล็กน้อย ให้รู้สึกสบายคอ/จมูกขึ้น (โดยไม่ชื้นจนเกินไป)
  • ความสวยงาม/การเชื่อมโยงธรรมชาติ ช่วยให้ห้องนอน “น่านอน” และใช้เวลาในห้องอย่างมีคุณภาพมากขึ้น
  • งานสื่อเชิงวิทยาศาสตร์ยุคใหม่เริ่มเน้นมุม สุขภาวะ (well-being) มากกว่าการเคลม “ฟอกแรง” เช่น บทสรุปจาก Time และสื่อวิชาการที่ชี้ว่า ประโยชน์ด้านอารมณ์/สมาธิ/ความคิดสร้างสรรค์ คือของจริง ส่วน “ฟอกมลพิษ” เป็นรองและขึ้นกับบริบทมาก ๆ

ข้อควรระวังเมื่อปลูกต้นไม้ในห้องนอน

  • ชื้นเกิน = เชื้อรา: รดน้ำพอดี ระบายอากาศ อย่าปล่อยน้ำขังถาดรอง (EPA เตือนเรื่องดินชื้นเกิน)
  • กลิ่นอับ/ยุงรำคาญ: จัดการน้ำค้างในจานรอง เปลี่ยนดินเป็นระยะ
  • สัตว์เลี้ยง/เด็กเล็ก: บางชนิดอาจระคายเคืองหากรับประทานใบ จัดวางให้ปลอดภัยหรือเลือกชนิดที่เป็นมิตร
  • แสงน้อยมาก ๆ: ควรเสริมไฟปลูกพืช (grow light) แบบกำลังต่ำช่วงเย็น ๆ เพื่อให้ใบไม่โทรม

เปรียบเทียบ “ต้นไม้ฟอกอากาศ” vs “เครื่องฟอกอากาศ”

หัวข้อต้นไม้ฟอกอากาศในห้องนอนเครื่องฟอกอากาศ HEPA
เป้าหมายหลักความสวยงาม, ความผ่อนคลาย, เพิ่มความชื้นเล็กน้อยลด PM2.5/PM10 อย่างรวดเร็ว, ลดสารก่อภูมิแพ้
ประสิทธิภาพฟอกมลพิษจำกัดในบ้านจริง (ขึ้นกับจำนวน/สภาพแวดล้อม)ชัดเจน วัดผลได้ด้วยเซนเซอร์
ต้นทุนดูแลต่ำ–ปานกลาง (รดน้ำ, เช็ดใบ, เปลี่ยนดิน)เปลี่ยนไส้กรองเป็นระยะ, ใช้ไฟฟ้า
ข้อควรระวังดินชื้น–เชื้อรา, พิษพืชบางชนิดเสียง/ค่าไฟ/ขนาดเครื่อง
ข้อแนะนำการใช้งานใช้เป็น “ส่วนเสริม” เพื่อความสุขและบรรยากาศเป็น “ตัวหลัก” เมื่อต้องการอากาศสะอาดจริงจัง

FAQ

ถาม: ปลูกต้นไม้ในห้องนอนได้ไหม
ตอบ: ได้ หากมีแสงทางอ้อมและระบายอากาศพอ รดน้ำพอดี เลือกชนิดทนร่ม เช่น ลิ้นมังกร พลูด่าง

ถาม: ต้นไม้ฟอกอากาศแทนเครื่องฟอกได้ไหม
ตอบ: ไม่ควร “แทน” ในบ้านทั่วไปประสิทธิภาพฟอกมลพิษของต้นไม้มักจำกัด EPA ระบุว่ายังไม่มีหลักฐานว่าจำนวนต้นไม้ที่สมเหตุสมผลจะลดมลพิษในบ้านได้มาก ใช้ต้นไม้เป็นตัวเสริม ส่วนตัวหลักคือระบายอากาศและเครื่องฟอก HEPA

ถาม: ถ้าวางหลาย ๆ กระถางจะช่วยมากขึ้นหรือไม่
ตอบ: เพิ่มขึ้นบ้าง แต่ต้องจำนวนมากผิดปกติจึงจะไล่ทันการถ่ายเทอากาศของบ้านทั่วไป (สิ่งที่งาน NASA ในห้องปิดแสดง ไม่ได้เทียบเท่าบ้านจริง)

ถาม: มีไม้ชนิดไหน “อันตราย” ไหม
ตอบ: หลายชนิดมีน้ำยาง/สารระคายเคือง หากบ้านมีเด็กเล็ก/สัตว์เลี้ยง ให้เลือกชนิดปลอดภัยหรือวางสูงพ้นมือ


สรุป

การมี ต้นไม้ฟอกอากาศในห้องนอน ช่วยให้เรารู้สึกสงบ ลดความเครียด และเชื่อมโยงกับธรรมชาติ—สิ่งเหล่านี้ดีต่อการนอนและคุณภาพชีวิต แต่ถ้าเป้าหมายคือ “อากาศสะอาดจริง” ให้จัดลำดับความสำคัญเป็น 1) ลดแหล่งกำเนิดมลพิษ 2) ระบายอากาศ 3) เครื่องฟอกอากาศ HEPA ส่วน ต้นไม้ในห้องนอน ให้ทำหน้าที่ เสริมสุขภาวะและความสวยงาม แล้วคุณจะได้ทั้งห้องที่สวยขึ้นและอากาศที่ดีขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม

Peemanus Tongpiem

Peemanus Tongpiem

เราให้ความสำคัญกับอาหารที่เรารับประทาน 3 มื้อต่อวัน แต่เรากลับละเลยอากาศที่เราใช้หายใจมากกว่า 10 ครั้งต่อนาที เป็นเหตุให้ผมเริ่มค้นคว้าและเผยแพร่ความรู้เรื่องมลพิษทางอากาศ เพื่อให้ผู้คนตระถึงความสำคัญของการใช้เครื่องฟอกอากาศเพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น