เครื่องฟอกอากาศกินไฟไหม? 1 เครื่องกินไฟเท่าไหร่?

by Peemanus Tongpiem / มกราคม 30, 2025

เครื่องฟอกอากาศได้รับความนิยมมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากผู้คนตระหนักถึงความสำคัญของอากาศสะอาดที่มีต่อสุขภาพมากขึ้น ด้วยความสามารถที่ช่วยขจัดมลพิษและสารปนเปื้อนออกจากอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ เครื่องฟอกอากาศจึงเป็นอุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้ในยุคนี้ อย่างไรก็ตาม ข้อกังวลที่หลายคนมีเกี่ยวกับเครื่องฟอกอากาศคือ เครื่องฟอกอากาศกินไฟไหม วันนี้เราจะมาตอบคำถามนี้กัน

เครื่องฟอกอากาศกินไฟไหม

เครื่องฟอกอากาศกินไฟอยู่ที่ประมาณ 50-300 วัตต์ การเลือกขนาดของเครื่องฟอกอากาศให้เหมาะสมกับขนาดของห้อง และการปรับความเร็วพัดลม จะสามารถช่วยลดปริมาณการใช้ไฟลงได้โดยที่เครื่องฟอกอากาศยังทำงานได้เต็มประสิทธิภาพอยู่

ทำความเข้าใจการใช้พลังงานของเครื่องฟอกอากาศ

ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่าเครื่องฟอกอากาศทำงานอย่างไร เครื่องฟอกอากาศทำงานโดยการดึงอากาศผ่านชุดตัวกรองที่ดักจับอนุภาคต่างๆ เครื่องฟอกอากาศมีการใช้พลังงานแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับขนาด คุณสมบัติ และรูปแบบการใช้งาน บางรุ่นได้รับการออกแบบมาให้ทำงานอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่บางรุ่นมีการตั้งค่าและตัวจับเวลาที่ปรับได้เพื่อควบคุมการใช้งาน การใช้พลังงานโดยทั่วไปจะวัดเป็นวัตต์ (W) และหน่วยของพลังงานที่ใช้เมื่อเวลาผ่านไปคือกิโลวัตต์-ชั่วโมง (kWh)

ปัจจัยที่ส่งผลต่อการใช้พลังงานของเครื่องฟอกอากาศ

1. ความเร็วพัดลม 

พัดลมภายในเครื่องฟอกอากาศมีหน้าที่ดึงอากาศเข้าไปในเครื่องและดันกลับออกไป โดยทั่วไปความเร็วพัดลมที่สูงขึ้นจะส่งผลให้สิ้นเปลืองพลังงานมากขึ้น

2. ขนาดห้อง

ขนาดของห้องที่ใช้เครื่องฟอกอากาศมีผลต่อการใช้พลังงาน ห้องขนาดใหญ่ต้องการเครื่องฟอกอากาศที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งอาจใช้ไฟฟ้ามากขึ้นในการฟอกอากาศอย่างมีประสิทธิภาพ

3. ระยะเวลาการใช้งาน

ระยะเวลาที่เครื่องฟอกอากาศทำงานยังส่งผลต่อการใช้พลังงานของเครื่องอีกด้วย ยิ่งเปิดนานก็ยิ่งใช้ไฟฟ้ามาก

วิธีคำนวณการกินไฟของเครื่องฟอกอากาศ

ในการคำนวณการใช้ไฟฟ้าของเครื่องฟอกอากาศ คุณจำเป็นต้องทราบปัจจัยสำคัญ 2 ประการ ได้แก่ กำลังไฟของเครื่องฟอกอากาศและระยะเวลาการใช้งาน โดยคุณสามารถคำนวณค่าไฟของเครื่องฟอกอากาศได้ดังนี้:

1. เช็กกำลังไฟฟ้าของเครื่องฟอกอากาศ

หากำลังไฟฟ้าที่เครื่องฟอกอากาศของคุณใช้ ซึ่งโดยทั่วไปวัดเป็นวัตต์ (W) หรือกิโลวัตต์ (kW) คุณสามารถดูข้อมูลนี้ได้ที่ฉลากผลิตภัณฑ์ คู่มือผู้ใช้ หรือเว็บไซต์ของผู้ผลิต

2. กำหนดเวลาการใช้งาน

ประมาณจำนวนชั่วโมงที่คุณเปิดเครื่องฟอกอากาศต่อวัน ตัวอย่างเช่น สมมติว่าคุณใช้งาน 8 ชั่วโมงต่อวัน

3. แปลงเป็นกิโลวัตต์-ชั่วโมง (kWh)

ค่าไฟฟ้าส่วนใหญ่รวมถึงประเทศไทยจะคำนวณตามกิโลวัตต์-ชั่วโมง ให้นำกำลังไฟฟ้า (เป็นวัตต์) หารด้วย 1,000 เพื่อแปลงเป็นกิโลวัตต์ ตัวอย่างเช่น หากเครื่องฟอกอากาศของคุณใช้กำลังไฟฟ้า 50 วัตต์ ให้หารด้วย 1,000 จะได้ 0.05 กิโลวัตต์

4. คำนวณการใช้ไฟฟ้ารายวัน

ให้นำกำลังไฟฟ้าเป็นกิโลวัตต์คูณจำนวนชั่วโมงที่ใช้เครื่องฟอกอากาศต่อวัน เช่น ถ้าเราใช้งานเครื่องฟอกอากาศ 8 ชั่วโมงต่อวัน ให้นำ 0.05 kW (ที่ได้จากข้อก่อนหน้า) คูณด้วย 8 ก็จะได้ 0.4 กิโลวัตต์-ชั่วโมง (kWh) ต่อวัน

5. คำนวณการใช้ไฟฟ้ารายเดือน

นำปริมาณการใช้ไฟฟ้ารายวันคูณด้วยจำนวนวันในหนึ่งเดือน เพื่อความง่าย สมมติว่าเดือนนี้มี 30 วัน ก็นำ 0.4 kWh/วัน คูณ 30 วัน ได้เท่ากับ 12 kWh ต่อเดือน

6. คำนวณค่าไฟที่ต้องจ่ายต่อเดือน

นำปริมาณการใช้ไฟฟ้ารายเดือน (เป็นกิโลวัตต์ชั่วโมง) คูณอัตตราค่าไฟฟ้า (ต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง) เพื่อให้ได้ค่าใช้จ่ายรายเดือน เช่น นำ 12 กิโลวัตต์ชั่วโมงคูณด้วยอัตราค่าไฟฟ้าจากการไฟฟ้า โดยเราจะสมมติว่า ณ ตอนนี้ค่าไฟฟ้าอยู่ที่ 4 บาทต่อหน่วย ก็จะได้ค่าไฟต่อเดือนเท่ากับ 48 บาท หรือคุณสามารถค่าไฟฟ้าได้ที่ระบบประมาณการค่าไฟ

โปรดทราบว่าการคำนวณเหล่านี้เป็นค่าประมาณ และปริมาณการใช้ไฟฟ้าจริงอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น การตั้งค่าความเร็วพัดลม ตัวกรอง และสภาพการทำงาน นอกจากนี้ อัตราค่าไฟฟ้าอาจแตกต่างกันไปตามสถานที่และเวลาใช้งานของคุณ

ตัวอย่างการคำนวณค่าไฟของเครื่องฟอกอากาศ Sqair

เครื่องฟอกอากาศ Sqair ในห้องนั่งเล่น

สมมติว่าตอนนี้คุณเป็นเจ้าของหรือกำลังสนใจจะซื้อเครื่องฟอกอากาศ Smart Air รุ่น The Sqair ซึ่งใช้พลังงานไฟฟ้า 38 วัตต์ และคุณต้องการจะใช้งาน 24 ชั่วโมงต่อวัน โดยที่อัตราค่าไฟปัจจุบันที่อยู่ 4 บาทถ้วน คุณสามารถคำนวณค่าไฟฟ้าต่อเดือนได้ดังนี้

ขั้นตอนที่ 1: เครื่องฟอกอากาศ The Sqair มีกำลังไฟฟ้า 38 วัตต์ ÷ 1000 X 24 ชั่วโมง = 0.91 ยูนิตต่อวัน

ขั้นตอนที่ 2: ค่าไฟ The Sqair สามารถคิดค่าไฟได้เป็น 0.91 X 4 = 3.64 บาทต่อวัน

ขั้นตอนที่ 3: ค่าไฟต่อเดือนของเครื่องฟอกอากาศ The Sqair จะเท่ากับ 3.64 X 30 = 109.2 บาทต่อเดือน

ตารางเปรียบเทียบการใช้ไฟฟ้าของเครื่องฟอกอากาศกับเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ

เครื่องใช้ไฟฟ้ากำลังไฟ (วัตต์)ค่าไฟต่อชั่วโมง (บาท)ค่าไฟต่อวัน (8 ชั่วโมง) (บาท)ค่าไฟต่อปี (บาท)
เครื่องฟอกอากาศขนาดเล็ก20-400.09-0.180.72-1.44262.8-525.6
เครื่องฟอกอากาศขนาดกลาง40-600.18-0.271.44-2.16525.6-788.4
เครื่องฟอกอากาศขนาดใหญ่60-1000.27-0.452.16-3.6788.4-1,314
พัดลมตั้งโต๊ะ45-650.2-0.291.6-2.32584-847.2
หลอดไฟ LED 60 วัตต์600.272.16788.4
ตู้เย็นขนาดเล็ก80-1500.36-0.682.88-5.441,051.2-1,985.6
ตู้เย็นขนาดใหญ่150-3000.68-1.355.44-10.81,985.6-3,942
เครื่องปรับอากาศขนาดเล็ก800-1,2003.6-5.428.8-43.210,512-15,768
เครื่องปรับอากาศขนาดใหญ่1,800-2,4008.1-10.864.8-86.423,652-31,536

เราคำนวณค่าไฟเครื่องฟอกอากาศโดยใช้สูตร: (กำลังไฟฟ้า ÷ 1,000) × ค่าไฟฟ้าต่อหน่วย (4.5 บาท/หน่วย) และคำนวณจากการใช้งานเฉลี่ย 8 ชั่วโมงต่อวัน

จะเห็นได้ว่าเครื่องฟอกอากาศโดยเฉลี่ยใช้ไฟน้อยกว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ เช่น เครื่องปรับอากาศหรือเครื่องซักผ้า และการเลือกขนาดเครื่องฟอกอากาศที่เหมาะสมจะช่วยลดการใช้พลังงานและประหยัดค่าไฟได้ในระยะยาว

ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเปลืองไฟ

  1. ขนาดห้อง: ห้องขนาดใหญ่ต้องใช้เครื่องที่มีกำลังสูงขึ้น
  2. โหมดการทำงาน: โหมดเร่งด่วนใช้พลังงานมากกว่าโหมดกลางคืน
  3. เทคโนโลยี: เครื่องที่ไม่มีโหมดประหยัดพลังงาน เช่น Inverter อาจเปลืองไฟมากกว่า
  4. สภาพแวดล้อม: หากห้องมีฝุ่นมาก เครื่องจะทำงานหนักขึ้น
  5. การดูแลรักษา: แผ่นกรองที่อุดตันทำให้เครื่องต้องใช้พลังงานมากขึ้น

เคล็ดลับประหยัดพลังงาน

หากคุณกังวลเกี่ยวกับการใช้ไฟฟ้าของเครื่องฟอกอากาศ คำแนะนำต่อไปนี้จะช่วยลดการใช้พลังงานไฟฟ้าของเครื่องให้เหลือน้อยที่สุด:

1. ปรับความเร็วพัดลมให้เหมาะสม

เครื่องฟอกอากาศส่วนใหญ่มีการตั้งค่าความเร็วพัดลมหลายระดับ การลดความเร็วพัดลมเมื่อคุณภาพอากาศอยู่ในระดับดีสามารถลดการใช้พลังงานได้

2. ขนาดที่เหมาะสม

เลือกเครื่องฟอกอากาศที่เหมาะกับขนาดของห้อง เครื่องฟอกอากาศขนาดเล็กอาจต้องทำงานหนักขึ้น ใช้ไฟฟ้ามากขึ้นเพื่อรักษาอากาศที่สะอาด

3. ตัวจับเวลาและเซ็นเซอร์

เครื่องฟอกอากาศบางรุ่นมาพร้อมกับตัวจับเวลาหรือเซ็นเซอร์คุณภาพอากาศในตัว ใช้คุณสมบัติเหล่านี้เพื่อกำหนดเวลาการทำงานหรือปรับความเร็วพัดลมโดยอัตโนมัติตามคุณภาพอากาศ เพื่อให้มั่นใจว่าใช้ไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพ

4. เปลี่ยนแผ่นกรองอากาศสม่ำเสมอ

ทำความสะอาดหรือเปลี่ยนแผ่นกรองตามคำแนะนำของผู้ผลิต แผ่นกรองที่อุดตันอาจกีดขวางการไหลเวียนของอากาศ ทำให้เครื่องฟอกอากาศใช้พลังงานมากขึ้น

สรุป

เครื่องฟอกอากาศเป็นอุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้สำหรับการปรับปรุงคุณภาพอากาศภายในอาคาร แต่จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องคำนึงถึงการใช้พลังงานไฟฟ้าของเครื่องฟอกอากาศ แม้ว่าการใช้ไฟฟ้าอาจแตกต่างกันขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น ความเร็วพัดลม ขนาดห้อง และระยะเวลาใช้งาน แต่โดยทั่วไปแล้วเครื่องฟอกอากาศจะกินไฟประมาณ 50-300 วัตต์ แต่การปฏิบัติตามคำแนะนำที่เราให้ไป เช่น การปรับความเร็วพัดลมให้เหมาะสมและขนาดที่เหมาะสม คุณจะสามารถลดการใช้ไฟฟ้าของเครื่องฟอกอากาศของคุณโดยไม่ลดทอนประสิทธิภาพการทำงาน 

Peemanus Tongpiem

Peemanus Tongpiem

เราให้ความสำคัญกับอาหารที่เรารับประทาน 3 มื้อต่อวัน แต่เรากลับละเลยอากาศที่เราใช้หายใจมากกว่า 10 ครั้งต่อนาที เป็นเหตุให้ผมเริ่มค้นคว้าและเผยแพร่ความรู้เรื่องมลพิษทางอากาศ เพื่อให้ผู้คนตระถึงความสำคัญของการใช้เครื่องฟอกอากาศเพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น