เครื่องฟอกอากาศยี่ห้อไหนดี

เครื่องฟอกอากาศยี่ห้อไหนดี 2024 กรองฝุ่น กรองไวรัส สะอาดทุกลมหายใจ

by Peemanus Tongpiem / ตุลาคม 9, 2024

ในยุคที่มลพิษทางอากาศกลายเป็นปัญหาเรื้อรังในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะฝุ่น PM 2.5 และสารเคมีต่าง ๆ ที่ลอยปะปนในอากาศ การมีเครื่องฟอกอากาศที่มีประสิทธิภาพจึงเป็นสิ่งที่ทุกบ้านควรพิจารณาเป็นอย่างยิ่ง เครื่องฟอกอากาศไม่เพียงแต่ช่วยลดปริมาณฝุ่นละอองในอากาศ แต่ยังกรองไวรัส แบคทีเรีย และสารก่อภูมิแพ้ต่าง ๆ ช่วยให้คุณและครอบครัวได้หายใจเอาอากาศที่บริสุทธิ์ขึ้น สำหรับใครที่กำลังมองหาเครื่องฟอกอากาศยี่ห้อไหนดี รุ่นไหนที่ตอบโจทย์และคุ้มค่าที่สุด ปี 2024 นี้ เราได้รวบรวมข้อมูลมาให้แล้วที่นี่ ติดตามเพื่อค้นหาตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคุณ

แนะนำ 7 เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดีที่ตอบโจทย์สุขภาพและคุ้มค่าที่สุด

1. เครื่องฟอกอากาศ Smart Air – The Sqair

เครื่องฟอกอากาศที่ดีที่สุดของ Sqair บนพื้นหลังสีขาว

ประสิทธิภาพที่แข็งแกร่ง การออกแบบที่สวยงาม

Smart Air กิจการเพื่อสังคมชื่อดังได้เปิดตัว “The Sqair” เครื่องฟอกอากาศราคาประหยัดแต่สเปคแรง สำหรับใครที่กำลังสงสัยว่า เครื่องฟอกอากาศยี่ห้อไหนดี ที่จะมีทั้งดีไซน์ที่สวยงามและประสิทธิภาพการฟอกอากาศที่ยอดเยี่ยม The Sqair อาจเป็นตัวเลือกที่คุณไม่ควรมองข้าม

มี CADR สูงถึง 315 ลบ.ม./ชม. ที่ช่วยฟอกอากาศในห้องขนาดใหญ่ถึง 40 ตร.ม. ในเวลาเพียง 25 นาที

การออกทีสะดุดตาในสไตล์สแกนดิเนเวียของ Sqair ช่วยเพิ่มความสวยงามให้กับบ้าน

Smart Air มุ่งเน้นที่ความยั่งยืนด้วยการใช้ขาไม้ที่มาจากป่าไม้ยั่งยืนในยุโรป

นอกจากนี้บรรจุภัณฑ์ยังทำจากกระดาษแข็งและปลอดพลาสติก 100%

เพื่อให้สอดคล้องกับภารกิจด้านอากาศสะอาด พวกเขานำผลกำไร 100% กลับคืนสู่ภารกิจ ด้วยการให้ทุนสนับสนุนการประชุมเชิงปฏิบัติการฟรีและการทดสอบผลิตภัณฑ์

The Sqair ดีไซน์สวยงามข้างโซฟาในห้องนั่งเล่น

ใช้งานง่าย ปลอดภัยสำหรับเด็ก

Sqair ติดตั้งได้อย่างรวดเร็วและใช้งานง่าย พร้อมปุ่มหมุนสำหรับปรับความเร็วลมสามระดับ

นอกจากนี้ยังปราศจากเสียงรบกวนบี๊บๆ ขณะตั้งค่า ซึ่งน่าจะถูกใจผู้ใช้งานในเวลากลางคืน

ความมั่นคงของเครื่อง Sqair จึงเป็นเครื่องฟอกอากาศที่เหมาะสำหรับเด็กเป็นพิเศษ เนื่องจากพลิกคว่ำได้ยาก

The Sqair ในห้องนั่งเล่นข้างต้นไม้

แผ่นกรอง HEPA ใช้งานได้ยาวนาน

Sqair มีแผ่นกรอง HEPA ที่คงประสิทธิภาพได้เป็นเวลานานอย่างน้อย 6 เดือน

ผู้ใช้บางรายรายงานว่ามันทำงานได้อย่างราบรื่นนานถึงหนึ่งปี ผู้ใช้ที่ต้องการแผ่นกรองคาร์บอนสามารถเลือกซื้อเพิ่มได้

หมายเหตุ: การติดตั้งแผ่นกรองคาร์บอนเพิ่มเติมจะทำให้ค่า CADR ลดลง หากคุณต้องการประสิทธิภาพสูงสุด ให้นำแผ่นกรองคาร์บอนออก

หากคุณกำลังพิจารณาว่า เครื่องฟอกอากาศยี่ห้อไหนดี ที่มีราคากรองไม่แพง Sqair อาจเป็นคำตอบ โดยแผ่นกรอง HEPA มีราคาเพียง 690 บาท และแผ่นกรองคาร์บอน 590 บาท

ปัญหาเล็กๆ น้อยๆ ประการหนึ่งที่เราสังเกตเห็นใน The Sqair คือการไม่มีแผ่นกรองอากาศขั้นต้น หรือ Pre-filter เพื่อดักจับอนุภาคขนาดใหญ่ ผู้ใช้ควรตรวจสอบด้านล่างของแผ่นกรองเป็นประจำและปัดฝุ่นให้เป็นนิสัย

Sqair เปิดด้วยแผ่นกรอง HEPA

ไม่มีแอพ ไม่มีลูกเล่น

ไม่เหมือนกับเครื่องฟอกอากาศส่วนใหญ่ The Sqair จะไม่มาพร้อมกับฟีเจอร์ “อัจฉริยะ” แอป หรือหน้าจอสัมผัส

เป็นเครื่องฟอกอากาศธรรมดาๆ ที่ไม่มีอุปกรณ์เสริมใดๆ หากคุณยังไม่รู้ว่าจะซื้อเครื่องฟอกอากาศยี่ห้อไหนดี The Sqair เป็นอีกตัวเลือกที่ดีโดยเฉพาะผู้ที่ชอบดีไซน์เรียบหรู และการใช้งานที่เรียบง่าย

นอกจากนี้ Sqair ยังไม่มีเครื่องอ่าน PM2.5 ในตัวอีกด้วย Smart Air เลือกที่จะนำสิ่งนี้ออกจากเครื่องฟอกอากาศทุกรุ่น เนื่องจากการทดสอบพบว่าเซ็นเซอร์ที่มาพร้อมกับเครื่องฟอกอากาศนั้นจะให้ข้อมูลที่คาดเคลื่อนอย่างมาก

เพื่อให้ได้ข้อมูลที่แม่นยำที่สุด เราขอแนะนำให้ซื้อเครื่องตรวจวัดคุณภาพอากาศแยกต่างหาก

เครื่องตรวจจับ PM2.5 บน Sqair แสดงคุณภาพอากาศที่ยอดเยี่ยม

ข้อดี ข้อเสีย

ข้อดี

  • การออกแบบที่สวยงาม
  • CADR จัดเต็ม 315 ลบ.ม./ชม
  • ติดตั้งง่ายภายในหนึ่งนาที
  • แผ่นกรอง HEPA ราคาไม่แพงและใช้งานได้ยาว

ข้อเสีย

  • ไม่มี pre-filter
  • การเพิ่มแผ่นกรองคาร์บอนจะลด CADR

ข้อมูลทางเทคนิค

CADR315 ลบ.ม./ชม
พื้นที่ครอบคลุม40 ตร.ม
แผ่นกรอง HEPAH12
แผ่นกรองคาร์บอนมีให้ซื้อเพิ่ม
WIFIไม่มี
แอพไม่มี
เสียงรบกวน (dB)23 – 43 – 52 (ต่ำ – กลาง – สูง)
ขนาด (ยxกxส)33 × 33 × 37 ซม
การใช้พลังงาน (วัตต์)6 – 18 – 38 (ต่ำ – กลาง – สูง)
น้ำหนัก6 กก
ราคา3,990 บาท
GREAT AIR PURIFIER

Sqair เครื่องฟอกอากาศแนะนำสำหรับผู้ชื่นชอบการออกแบบที่เรียบง่ายและการทำงานที่ไม่ซับซ้อน เป็นเครื่องฟอกอากาศที่เรียบง่ายซึ่งกรอง PM2.5 ได้อย่างดีเยี่ยม แถมราคาสบายกระเป๋า

2. เครื่องฟอกอากาศ Xiaomi – Air Purifier 3H

เครื่องฟอกอากาศ Xiaomi H3 บนพื้นหลังสีขาว

Xiaomi เป็นอีกแบรนด์ที่คนนึกถึงเมื่อคิดว่าจะซื้อเครื่องฟอกอากาศยี่ห้อไหนดี เครื่องฟอกอากาศ Xiaomi 3H สร้างขึ้นจากความสำเร็จของเวอร์ชัน 2S ที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม ซึ่งจำหน่ายหมดเกลี้ยงในช่วงฤดูมลพิษก่อนหน้านี้ ด้วยโมเดล 3H ใหม่ที่ได้รับการปรับปรุง ผู้ใช้จะได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้น

3H มาพร้อมกับพัดลมที่ทรงพลังยิ่งขึ้น อัตราการสร้างอากาศบริสุทธิ์ (CADR) เพิ่มขึ้นจาก 310 เป็น 380 ลบ.ม./ชม. เหมาะสำหรับห้องขนาดไม่เกิน 50 ตร.ม. หากคุณยังตัดสินใจไม่ได้ว่า เครื่องฟอกอากาศยี่ห้อไหนดี ที่ตอบโจทย์ทั้งขนาดห้องและการฟอกอากาศ Xiaomi 3H น่าจะเป็นตัวเลือกที่คุณควรพิจารณา

ผู้ใช้สามารถเลือกโหมดความเร็วได้หกโหมด ทำให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งประสิทธิภาพของเครื่องฟอกอากาศให้เหมาะกับระดับคุณภาพอากาศได้อย่างยืดหยุ่น ในรูปแบบที่ทันสมัย 3H มีรูปแบบที่ทันสมัยขึ้นโดยได้ เปลี่ยนปุ่มกดใน 2S เป็นหน้าจอสัมผัส ซึ่งถูกใจใครหลายคน

เครื่องฟอกอากาศ Xiaomi 3H ในห้องนั่งเล่นพร้อมผนังสีฟ้า

การออกแบบและการใช้งาน

Xiaomi มีการออกแบบที่โดดเด่น ไม่เพียงแต่เครื่องฟอกอากาศเท่านั้น แต่ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของแบรนด์ยังมีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดและเป็นเอกลักษณ์อีกด้วย ตัวเครื่องพลาสติกมีความทนทาน และคุณสามารถเปลี่ยนตัวกรองได้อย่างง่ายดาย เครื่องพลิกคว่ำได้ง่าย โปรดระวังหากคุณมีเด็กเล็กอยู่ที่บ้าน

คุณสามารถควบคุมเครื่องด้วยตนเองหรือผ่านแอพได้ เราพยายามเชื่อมต่อเครื่องฟอกอากาศกับแอป แต่ได้รับข้อความแสดงข้อผิดพลาดอยู่เรื่อยๆ การตั้งค่าเครื่องฟอกอากาศค่อนข้างยุ่งยาก ตัวแอปจำเป็นต้องได้รับการปรับปรุง การออกแบบดูเทอะทะ และบางครั้งตัวอักษรจีนก็เด้งขึ้นมา แสดงว่ามันยังแปลไม่ครบถ้วน

ภาพหน้าจอของแอป Xiaomi ที่มีตัวอักษรจีน

มีเสียงดัง

เครื่องฟอกอากาศ Xiaomi มีระดับเสียงที่ 64 dB ในการตั้งค่าสูงสุด ซึ่งค่อนข้างดังและเทียบได้กับเครื่องดูดฝุ่นบางรุ่น ทำให้เป็นหนึ่งในเครื่องฟอกอากาศที่ดังที่สุดในตลาด หากคุณมีความไวต่อเสียงรบกวน

นอกจากนี้อุปกรณ์ยังส่งเสียงบี๊บเมื่อเปลี่ยนโหมด แม้ว่าบางคนอาจพบว่าฟีเจอร์นี้น่ารำคาญ แต่สามารถปิดเสียงบี๊บได้ผ่านแอพ

แผ่นกรอง

ตัวกรอง HEPA ของ Xiaomi มักจะเป็นตัวกรอง H13 ซึ่งหมายความว่าสามารถกรองอนุภาคที่มีขนาดเล็กถึง 0.3 ไมโครเมตรจากอากาศได้ 99.95% ซึ่งเพียงพอแล้วในการกำจัดฝุ่น ไวรัส แบคทีเรีย สารก่อภูมิแพ้ ฯลฯ ในอากาศ

สำหรับการเลือก เครื่องฟอกอากาศยี่ห้อไหนดี ที่มีแผ่นกรอง HEPA คุณภาพดี Xiaomi 3H ก็เป็นตัวเลือกหนึ่งที่คุ้มค่า อย่างไรก็ตาม ต้องระวังการซื้อแผ่นกรองปลอมจาก Lazada หรือ Shopee ซึ่งอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพในการกรองอากาศของเครื่อง

ข้อดี ข้อเสีย

ข้อดี

  • CADR ถึง 380 ลบ.ม./ชม
  • สามารถใช้ในโหมดแมนนวลได้
  • การออกแบบที่ทันสมัย
  • ดูแลรักษาง่าย

ข้อเสีย

  • การเชื่อมต่อแอพค่อนข้างยุ่งยาก
  • มีฟิลเตอร์ปลอมมากมาย
  • มีเสียงดังมากในระดับความเร็วลมสูง

ข้อมูลทางเทคนิค

CADR380 ลบ.ม./ชม
พื้นที่ครอบคลุม50 ตร.ม
แผ่นกรอง HEPAH13
แผ่นกรองคาร์บอนใช่
WIFIใช่
แอพใช่
เสียงรบกวน (dB)32 – 64 (เดซิเบล)
ขนาด (ยxกxส)24 × 24 × 52 ซม
การใช้พลังงาน (วัตต์)38 (สูง)
น้ำหนัก4.8 กก
ราคา5,990 บาท
Solid AIR PURIFIER

Xiaomi เครื่องฟอกอากาศแนะนำสำหรับผู้ที่ชื่นชอบในตัวแบรนด์และถูกใจสมบัติอันชาญฉลาด เป็นเครื่องฟอกอากาศที่มั่นคงและเชื่อถือที่ทำงานได้ดี.”

3. เครื่องฟอกอากาศ Xiaomi – Air Purifier 4 Lite

เครื่องฟอกอากาศ Xiaomi 4 Lite บนพื้นหลังสีขาว

กำลังมองหาเครื่องฟอกอากศ รุ่นไหนดีอยู่ใช่ไหม? Xiaomi 4 Lite มาพร้อมฟีเจอร์ที่น่าสนใจ มาดูกัน

4 Lite มีการออกแบบที่ประณีตกว่ารุ่นพี่อย่าง 3H CADR อยู่ที่ 360 ลบ.ม./ชม. ลดลงเล็กน้อยแต่ยังคงประสิทธิภาพดีเยี่ยม นอกจากโครงสร้างเครื่องแตกต่างกัน เครื่องฟอกอากาศ Xiaomi 4 Lite มีความคล้ายคลึงกันหลายประการกับรุ่น 3H ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีราคาไม่แพงอีกด้วย และที่น่าสนใจคือมาพร้อมกับเครื่องสร้างประจุไอออน

สิ่งพิเศษที่เพิ่มขึ้น: เครื่องสร้างประจุไอออน

รุ่น 4 Lite มีฟังก์ชันสร้างประจุไอออนที่ขยายความสามารถในการกรองของเครื่องฟอกอากาศ สิ่งนี้อธิบายได้ว่าเครื่องฟอกขนาดกะทัดรัดเช่นนี้มี CADR ที่สูงขนาดนี้ได้อย่างไร แต่เดี๋ยวก่อน ไอออนไนเซอร์ไม่ได้มีแต่ข้อดีเท่านั้น

เราเคยพูดถึงเครื่องสร้างประจุไอออนกันไปแล้ว เทคโนโลยีนี้สามารถผลิตโอโซนซึ่งอาจส่งผลต่อสุขภาพของคุณได้ โชคดีในโชคร้าย Xiaomi ช่วยให้คุณสามารถปิดฟังก์ชันนี้ แต่คุณจะต้องเชื่อมต่อเครื่องกับแอปก่อน

เนื่องจากเครื่องสร้างประจุไอออนจะดึงมลพิษสู่พื้นผิว ทำให้สิ่งของต่างๆ สกปรกได้ ลองดูเครื่องฟอกอากาศ Blue Air ด้านล่าง สังเกตเห็นสิ่งสกปรกหรือไม่? นั่นคือผลงานของไอออไนเซอร์ ดังนั้น หากคุณกำลังพิจารณาเครื่องฟอกอากาศที่มีเครื่องสร้างประจุไอออน ให้เตรียมพร้อมสำหรับการทำความสะอาดเพิ่มเติมเล็กน้อย

เสียงดังพอๆ กับ 3H

เครื่องฟอกอากาศ Xiaomi 4 Lite มีเสียงที่ค่อนข้างดัง มันดังพอๆ กับเครื่องฟอกอากาศ Xiaomi 3H โดยมีความดังอย่างน้อย 60 (dB) ในระดับความเร็วลมสูง บอกเลยว่าคุณจะต้องลำคาญแน่ๆ ยิ่งเวลาที่ต้องใช้ความเร็วลมสูงสุดในวันที่ฝุ่นควันหนาแน่น ไม่เชื่อใช่มั้ย ลองดูวิดีโอด้านล่างแล้วจะรู้ว่าเสียงเป็นอย่างไร

แผ่นกรอง

เครื่องฟอกอากาศ Xiaomi มาพร้อมกับตัวกรอง H13 ช่วยให้สามารถกรองอนุภาคที่มีขนาดเล็กถึง 0.3 ไมโครเมตรได้ 99.95%

อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องจับตาดู: Xiaomi แนะนำให้เปลี่ยนตัวกรอง HEPA ทุก ๆ หกเดือน แต่ควรระมัดระวังในการช้อปปิ้งบน Lazada และ Shopee ระวังของปลอมที่มักส่งกลิ่นแปลกๆ แผ่นกรองของแท้จะอยู่ระหว่าง 890 ถึง 990 บาท

ข้อดี ข้อเสีย

ข้อดี

  • CADR 360 ลบ.ม./ชม
  • สามารถใช้ในโหมดแมนนวลได้
  • การออกแบบที่ทันสมัย
  • ดูแลรักษาง่าย

ข้อเสีย

  • เชื่อมต่อแอพยาก
  • มีฟิลเตอร์ปลอมมากมาย
  • มีเสียงดังมากในระดับความเร็วลมสูง
  • ไม่แนะนำให้ใช้เครื่องสร้างประจุไอออน

ข้อมูลทางเทคนิค

CADR360 ลบ.ม./ชม
พื้นที่ครอบคลุม45 ตร.ม
แผ่นกรอง HEPAH13
แผ่นกรองคาร์บอนใช่
เครื่องสร้างประจุไอออนใช่
WIFIใช่
แอพใช่
เสียงรบกวน (dB)32 – 60 (เดซิเบล)
ขนาด (ยxกxส)24 × 24 × 52 ซม
การใช้พลังงาน (วัตต์)38 (สูง)
น้ำหนัก4.5 กก
ราคา3,990 บาท
Solid AIR PURIFIER
เครื่องฟอกอากาศ Xiaomi 4 Lite ในห้องนั่งเล่น

“หากคุณกำลังมองหาเครื่องฟอกอากาศรุ่นไหนดีที่เหมาะกับคุณ เครื่องฟอกอากาศรุ่น 4 Lite เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ เหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบฟีเจอร์อัจฉริยะและแบรนด์ Xiaomi สำหรับผู้ที่ แต่โปรดทราบว่ามันมีเครื่องสร้างไอออนที่สามารถผลิตโอโซนได้และมีเสียงดังพอสมควร”

5. เครื่องฟอกอากาศ Philips – AC1215/20

เครื่องฟอกอากาศ Philips AC1215/20 บนพื้นหลังสีขาว

แต่เดี๋ยวก่อน ก่อนหน้านี้เราเคยพูดไม่ดีเกี่ยวกับ Philips AC1215/20 ไม่ใช่เหรอ? ให้เราอธิบายก่อน เราไม่ได้วิพากษ์วิจารณ์ตัวเครื่องฟอกอากาศ แต่วิธีที่ Philips ให้ข้อมูลที่ทำให้เข้าใจผิดเกี่ยวกับความสามารถในการทำความสะอาดของเขา

Philips AC1215/20 มี CADR ที่ 270 ลบ.ม./ชม. ซึ่งไม่ได้ตรงกับคำอ้างว่าทำความสะอาดพื้นที่ขนาด 63 ตร.ม. ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จริงๆ แล้วมันเหมาะกับห้องขนาดประมาณ 30 ตร.ม.เท่านั้น หากคุณกำลังพิจารณาว่า เครื่องฟอกอากาศยี่ห้อไหนดี ที่เหมาะกับห้องขนาดเล็กถึงกลาง รุ่นนี้เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดี แม้ว่าพลังงานที่ใช้ (50W) จะสูงกว่ารุ่น Sqair และ Xiaomi

ในด้านฟังก์ชันการทำงาน เครื่องฟอกอากาศ Philips นี้ไม่ทำให้ผิดหวัง มาพร้อมกับตัวกรอง HEPA และ Carbon จึงพร้อมรับมือกับมลพิษและดูดซับ TVOCs จากอากาศ การตั้งค่าความเร็วห้าระดับช่วยให้คุณควบคุมความเร็วได้ แม้ที่ 60 dB ที่การตั้งค่าสูงสุด ก็ไม่ได้เบาไปกว่าเครื่องฟอกอากาศ Xiaomi 4 Lite

AC1215 มาพร้อมกับเซ็นเซอร์คุณภาพอากาศในตัวที่เป็นมาตรฐานในปัจจุบัน ข้อมูลที่ได้จากเซนเซอร์อาจไม่ค่อยน่าเชื่อถือเพราะจะวัดเฉพาะอากาศรอบๆ ตัวเครื่องเท่านั้น เครื่องฟอกอากาศ Xiaomi ก็มีปัญหานี้เช่นกัน ใช่แล้ว เมื่อพูดถึงเซ็นเซอร์ PM2.5 และโหมดอัตโนมัติ แนะนำให้ใช้ความระมัดระวัง

Philips AC1215/20 เครื่องฟอกอากาศในห้องนอน

การดำเนินธุรกิจที่น่าสงสัย

แต่ก็มีริ้วรอยอยู่ ดูเหมือนว่า Philips จะการเปลี่ยนแผ่นกรองค่อนข้างแปลก คุณจะเห็นว่าเมื่อมีการเตือนให้เปลี่ยนแผ่นกรอง อุปกรณ์จะล็อคคุณออกจากระบบ ไม่สามารถเปิดเครื่องได้ นั่นค่อนข้างน่าหงุดหงิด ค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนไส้กรองค่อนข้างสูง และมีฟิลเตอร์ปลอมมากมายใน Shopee และ Lazada โปรดระวัง

ข้อดี ข้อเสีย

ข้อดี

  • แรงเพียงพอสำหรับห้องขนาดไม่เกิน 30 ตร.ม
  • การออกแบบที่ทันสมัย

ข้อเสีย

  • ค่อนข้างมีเสียงดัง
  • เครื่องจะหยุดทำงานเมื่อไม่ได้เปลี่ยนตัวกรอง
  • ไม่คุ้มค่าเท่ากับ Sqair และ Xiaomi
  • การใช้พลังงานสูงกว่า Sqair และ Xiaomi

ข้อมูลทางเทคนิค

CADR270 ลบ.ม./ชม
พื้นที่ครอบคลุม30 ตร.ม
แผ่นกรอง HEPAH13
แผ่นกรองคาร์บอนใช่
เครื่องสร้างประจุไอออนไม่มี
WIFIไม่มี
แอพไม่มี
เสียงรบกวน (dB)32 – 60 (เดซิเบล)
ขนาด (ยxกxส)32 × 21 × 54 ซม
การใช้พลังงาน (วัตต์)50 (สูง)
น้ำหนัก5.2 กก
ราคา7,990 บาท
Good but Overprized
Philips AC1215 ข้างห้องนอน

“Philips AC1215 เป็นชื่อที่รู้จักในประเทศไทย ไม่ใช่เครื่องฟอกอากาศที่ดีที่สุดหรือถูกที่สุด แต่เป็นเครื่องฟอกอากาศดีและคุ้มค่าเครื่องหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณชื่นชอบในแบรนด์ Philips”

เครื่องฟอกอากาศที่ดีที่สุดสำหรับพื้นที่ขนาดใหญ่ ยี่ห้อไหนดี

หากห้องของคุณมีพื้นที่มากกว่า 40 ตร.ม. เครื่องฟอกอากาศธรมดาไม่เพียงพอ แล้วต้องใช้เครื่องฟอกอากาศแบบไหนล่ะ คุณจำเป็นต้องใช้เครื่องฟอกอากาศหลายเครื่องหรือไม่ก็หาเครื่องที่แรงขึ้น

ในส่วนต่อไปนี้ เราจะพูดถึงเครื่องฟอกอากาศที่สามารถรองรับพื้นที่ตั้งแต่ 80 ตร.ม. ขึ้นไป

ดังนั้นหากคุณต้องการฟอกอากาศในพื้นที่ขนาดใหญ่ เช่น สำนักงาน โรงยิม โรงเรียน หรือโรงพยาบาล โปรดอ่านต่อไป ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อคุณโดยเฉพาะ

6. เครื่องฟอกอากาศ Smart Air – เครื่องฟอกอากาศ Blast

เครื่องฟอกอากาศ Blast บนพื้นหลังสีขาว

จากโรงพยาบาลสู่บ้าน

หากคุณกำลังพิจารณาว่า เครื่องฟอกอากาศยี่ห้อไหนดี ที่สามารถให้ประสิทธิภาพสูงในพื้นที่ขนาดใหญ่ เครื่องฟอกอากาศ Blast ของ Smart Air เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจ ด้วยการออกแบบที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง เครื่องฟอกอากาศรุ่นนี้มักถูกใช้งานในโรงพยาบาลในเอเชีย โดยมีแผ่นกรอง HEPA H13 ขนาดใหญ่ที่สามารถจัดการกับเชื้อโรคและมลพิษทุกชนิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ด้วยอัตรา CADR ที่ 950 ลบ.ม./ชม. ทำให้สามารถทำความสะอาดห้องขนาดใหญ่ถึง 150 ตร.ม. ได้ภายใน 25 นาที

เครื่องฟอกอากาศ Blast บริเวณโถงทางเข้าโรงพยาบาลสมิติเวช
เครื่องฟอกอากาศ The Blast (พื้นหลัง) ภายในโรงพยาบาลสมิติเวช กรุงเทพฯ

The Blast ไม่ใช่แค่สำหรับโรงพยาบาลเท่านั้น แต่ยังใช้งานได้หลากหลายอีกด้วย ใช้ในโรงยิมช่วยให้นักกีฬามีอากาศที่สะอาดขึ้นระหว่างออกกำลังกาย

นอกจากนี้ยังมีประสิทธิภาพในโรงเรียนและสำนักงานอีกด้วย และแน่นอน ยังเหมาะกับใช้ในบ้านด้วย หากคุณอยู่ในคอนโดที่กว้างขวาง The Blast ก็ใช้ได้ดีเช่นกัน

เครื่องฟอกอากาศ Blast ในห้องนั่งเล่นอันแสนสบาย
The Blast เหมาะกับห้องนั่งเล่นด้วย

เงียบแม้ในการตั้งค่าสูงสุด

The Blast ฉีกกฎเกณฑ์ของการออกแบบ

แตกต่างจากเครื่องฟอกอากาศอื่น ๆ ที่ระบายอากาศผ่านช่องระบายอากาศด้านบน Blast ใช้แผงด้านหน้าทั้งหมด

พื้นที่กว้างส่วนนี้ทำให้เครื่องเงียบอย่างน่าประทับใจแม้จะตั้งค่าสูงสุด

โดยดังเพียง 43 dB ซึ่งเงียบกว่ารุ่น Xiaomi หรือ Blue Air มากกว่า 25 dB

หากคุณไวต่อเสียงรบกวนแต่ยังต้องการการฟอกอากาศที่เหนือชั้น Blast คือคำตอบของคุณ เสียงรบกวนต่ำที่เป็นเอกลักษณ์ไม่มีที่ใดเทียบได้

คุณจะไม่เจอเครื่องไหนที่เงียบกว่าแต่มีประสิทธิภาพสูงเช่นนี้ในตลาดอีกแล้ว

รูปแบบช่องระบายอากาศบริเวณด้านหน้าของเครื่องฟอกอากาศ Blast
ช่องอากาศหลายร้อยช่องในบริเวณด้านหน้าของ Blasts ช่วยให้การทำงานเงียบ

การใช้งานและเปลี่ยนไส้กรองง่าย

The Blast การทำงานไม่ซับซ้อนและง่ายต่อการบำรุงรักษา ถึงเวลาต้องเปลี่ยนแผ่นกรองใช่ไหม? เพียงยกฝาด้านบนแล้วเปลี่ยนแผ่นใหม่ได้เลย

ด้วยขนาดที่ใหญ่ ตัวกรองจึงควรมีอายุการใช้งานอย่างน้อย 18 เดือนในประเทศไทย หากต้องการไส้กรองคาร์บอนจะต้องซื้อแยกต่างหาก

เครื่องฟอกอากาศ Blast มาพร้อมแผ่นกรอง HEPA ขนาดใหญ่
การเปลี่ยนแผ่นกรอง HEPA เป็นเรื่องง่าย

ล้อแบบล็อคได้ของ The Blast ช่วยให้เคลื่อนที่สะดวก แม้มีน้ำหนักมากกว่า 30 กก. เครื่องผลิตจากโลหะ จึงทนทาน

ปรับความเร็วลมง่ายๆ สามระดับ ไม่มีหน้าจอสัมผัสหรือคุณสมบัติอัจฉริยะ แต่เมื่อพูดถึงการกรองอากาศ Blast ทิ้งห่างแบรนด์ต่างๆ เช่น Blue Air, Sharp และ Dyson แบบไม่เห็นฝุ่น

คุณอยากเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ The Blast หรือไม่? ชม Paddy CEO ของ Smart Air แนะนำเครื่องในวิดีโอด้านล่าง

ข้อดี ข้อเสีย

ข้อดี

  • CADR ถึง 950 m³/ชม
  • เงียบเป็นพิเศษในการตั้งค่าระดับสูง
  • การใช้งานที่เรียบง่ายและตรงไปตรงมา
  • แผ่นกรอง H13 HEPA ที่มีอายุการใช้งานยาวนาน
  • ล้อล็อคได้เพื่อการเคลื่อนย้ายที่สะดวก

ข้อเสีย

  • หนัก
  • การออกแบบเรียบๆ (บางคนอาจชอบ บางคนอาจไม่ชอบ)
  • ไม่รวมไส้กรองคาร์บอน

ข้อมูลทางเทคนิค

CADR950 ลบ.ม./ชม
พื้นที่ครอบคลุม150 ตร.ม
แผ่นกรอง HEPAH13
แผ่นกรองคาร์บอนมีให้ซื้อเพิ่ม
WIFIไม่มี
แอพไม่มี
เสียงรบกวน (dB)29 – 37 – 43 (ต่ำ-กลาง-สูง)
ขนาด (ยxกxส)33 – 57 – 123 ซม
การใช้พลังงาน (วัตต์)48 – 81–118 (ต่ำ – กลาง – สูง)
น้ำหนัก36 กก
ราคา19,990 บาท
best air purifier for big rooms
เครื่องฟอกอากาศ Blast ในห้องนั่งเล่น

“The Blast ชนะใจเรา เป็นแชมป์ในการกำจัดมลพิษทางอากาศในพื้นที่ขนาดใหญ่ ใช้งานได้จริง ทรงพลัง และเงียบสงบ—เป็นตัวเลือกอันดับแรกสำหรับพื้นที่ขนาดใหญ่ ไร้คู่แข่ง!”

7. เครื่องฟอกอากาศ Smart Air – Blast Mini Air Purifier

Blast Mini air purifier on white background

พาวเวอร์ฮอร์สสำหรับห้องขนาดไม่เกิน 100 ตร.ม.

เครื่องฟอกอากาศ Blast Mini เป็นรุ่นย่อส่วนของรุ่น Blast ยอดนิยมที่เหมาะสำหรับพื้นที่ขนาดไม่เกิน 100 ตร.ม.

ออกแบบด้วยหลักการที่แข็งแกร่งเช่นเดียวกับรุ่นพี่อย่าง Blast ทำให้ Blast Mini มักถูกนำมาใช้ในสถานที่ต่าง ๆ มีตัวกรอง HEPA H13 ประสิทธิภาพสูงที่สามารถดักจับสารมลพิษและเชื้อโรคได้หลากหลาย เพื่อให้อากาศสะอาดและสุขภาพดี

blast mini in a bedroom

ด้วยค่า CADR ที่ 740 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง Blast Mini จึงสามารถฟอกอากาศในพื้นที่ขนาดใหญ่ถึง 100 ตร.ม. ได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับห้องขนาดกลางและสำนักงาน

blast mini air purifier in an office
Blast Mini ในสำนักงาน UNCHR ประเทศไทย

เครื่องฟอกอากาศ Blast Mini สะท้อนถึงแนวคิดของ Smart Air ที่ใช้งานและดูแลรักษาง่าย กระบวนการเปลี่ยนไส้กรองก็ไม่ยุ่งยาก เพียงแค่เปิดฝาด้านบนและเปลี่ยนไส้กรอง

a clean white hepa filter next to a dirty hepa filter
ไส้กรอง HEPA ของ Blast Mini สามารถใช้งานได้นานถึง 18 เดือน และสามารถดักจับมลพิษทุกชนิดได้

ความทนทานของไส้กรองถือว่าน่าประทับใจ โดยสามารถใช้งานได้นานอย่างน้อย 18 เดือนภายใต้การใช้งานปกติในประเทศไทย สำหรับผู้ที่ต้องการการกรองเพิ่มเติม ยังมีไส้กรองคาร์บอนที่สามารถซื้อเพิ่มเติมได้

นอกจากนี้ Blast Mini ยังออกแบบมาให้เคลื่อนย้ายสะดวก พร้อมล้อที่ล็อกได้ โครงสร้างโลหะที่ทนทานช่วยให้เครื่องมีอายุการใช้งานที่ยาวนานและเชื่อถือได้

a magnifyer highlighting an air purifier's lockable wheels
เครื่องฟอกอากาศ Blast มาพร้อมล้อที่ล็อกได้เพื่อความสะดวกในการเคลื่อนย้าย

ข้อดี ข้อเสีย

ข้อดี

  • มีค่า CADR ที่น่าประทับใจถึง 750 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง
  • ทำงานได้อย่างเงียบสงบแม้ในโหมดการทำงานสูงสุด
  • การใช้งานที่ง่ายและไม่ซับซ้อน
  • ไส้กรอง HEPA H13 ที่มีอายุการใช้งานยาวนาน
  • ล้อที่ล็อกได้เพื่อความสะดวกในการเคลื่อนย้าย

ข้อเสีย

  • หนัก
  • การออกแบบที่เรียบง่าย (บางคนอาจชอบ แต่บางคนอาจไม่ชอบ)
  • ไม่รวมไส้กรองคาร์บอน

ข้อมูลทางเทคนิค

CADR740 ลบ.ม./ชม
พื้นที่ครอบคลุม100 ตร.ม
แผ่นกรอง HEPAH13
แผ่นกรองคาร์บอนมีให้ซื้อเพิ่ม
WIFIไม่มี
แอพไม่มี
เสียงรบกวน (dB)49 – 82 – 122 (ต่ำ-กลาง-สูง)
ขนาด (ยxกxส)33 x 57.5 x 63 ซม
การใช้พลังงาน (วัตต์)48 – 81–118 (ต่ำ – กลาง – สูง)
น้ำหนัก26 กก
ราคา13,990 บาท
เหมาะสำหรับห้องขนาดใหญ่
blast mini air purifier in the corner of a bedroom

“Blast Mini เป็นเครื่องฟอกอากาศที่ยอดเยี่ยมสำหรับห้องขนาดกลางที่มีพื้นที่ไม่เกิน 100 ตร.ม. ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน และมีประสิทธิภาพในการกรองมลพิษหลากหลายชนิด เป็นตัวเลือกที่ดีในการรับมือกับมลพิษทางอากาศในประเทศไทย”

เมื่อพูดถึงการเลือก เครื่องฟอกอากาศยี่ห้อไหนดี การตัดสินใจขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งขนาดห้องที่ต้องการฟอกอากาศ ประสิทธิภาพในการกรองฝุ่นละอองและสารก่อภูมิแพ้ รวมถึงระดับเสียงและความสะดวกในการใช้งาน สำหรับผู้ที่ต้องการอากาศบริสุทธิ์ในบ้าน การเลือกเครื่องฟอกอากาศที่มี CADR เหมาะสมและแผ่นกรองคุณภาพสูงอย่าง HEPA หรือ Carbon เป็นสิ่งสำคัญ

นอกจากนี้ ฟีเจอร์เพิ่มเติม เช่น โหมดอัตโนมัติ เซ็นเซอร์วัดคุณภาพอากาศ หรือแม้แต่การควบคุมผ่านแอพพลิเคชั่น ก็เป็นสิ่งที่ควรพิจารณา ข้อดีของเครื่องฟอกอากาศหลายยี่ห้อคือความเงียบในระหว่างการใช้งาน และการออกแบบที่เหมาะสมกับการตกแต่งภายในบ้าน

ท้ายที่สุดแล้ว การเลือกเครื่องฟอกอากาศควรคำนึงถึงการบำรุงรักษาและค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนแผ่นกรองในระยะยาว เพื่อให้การลงทุนครั้งนี้คุ้มค่าและตอบโจทย์ความต้องการในการใช้งานของคุณได้อย่างดีที่สุด

Peemanus Tongpiem

Peemanus Tongpiem

เราให้ความสำคัญกับอาหารที่เรารับประทาน 3 มื้อต่อวัน แต่เรากลับละเลยอากาศที่เราใช้หายใจมากกว่า 10 ครั้งต่อนาที เป็นเหตุให้ผมเริ่มค้นคว้าและเผยแพร่ความรู้เรื่องมลพิษทางอากาศ เพื่อให้ผู้คนตระถึงความสำคัญของการใช้เครื่องฟอกอากาศเพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น