ผู้หญิงนอนไอตอนกลางคืน

วิธีแก้ไอตอนกลางคืนให้หายเร็ว ปลอดภัย ทำได้เองที่บ้าน

by Peemanus Tongpiem / กันยายน 19, 2025

หลายคนเจอปัญหา อาการไอตอนกลางคืน ที่หนักขึ้นจน “ไอจนนอนไม่หลับ” สาเหตุหลัก ๆ คือเมื่อเรานอนราบ แรงโน้มถ่วงทำให้เสมหะ/กรดไหลย้อน/น้ำมูก ไหลลงคอหอย กระตุ้นรีเฟล็กซ์ไอ อีกทั้งทางเดินหายใจมักไวต่อการระคายเคืองขึ้นในยามค่ำคืน จึงเกิดทั้ง ไอแห้งตอนกลางคืน และ ไอมีเสมหะตอนกลางคืน ได้ง่าย ความผิดปกติที่พบบ่อย ได้แก่ น้ำมูกไหลย้อน (post-nasal drip), กรดไหลย้อน (GERD), หอบหืด/หลอดลมไวเกิน, การติดเชื้อทางเดินหายใจ, อากาศแห้ง–เย็น หรือภูมิแพ้ในห้องนอน เช่น ไรฝุ่น ขนสัตว์ และเชื้อรา โดยเฉพาะกลุ่มที่มีโรคประจำตัวทางปอด/ไซนัส/ภูมิแพ้ อาการมักเด่นตอนกลางคืนมากกว่าเดิม


ไอแบบไหนตอนกลางคืน

ผู้ชายกำลังไอนอนอยู่บนเตียง

การรู้ว่าไอแบบไหนช่วยให้เลือกวิธีแก้ได้ตรงจุด

  • ไอแห้งตอนกลางคืน
    มักเกี่ยวข้องกับการระคายคอจาก อากาศแห้ง ฝุ่น ควัน น้ำหอม สเปรย์ หรือโรคอย่างกรดไหลย้อนและหอบหืดช่วงกลางคืน (nocturnal asthma) การนอนราบทำให้กรด/น้ำมูกระคายคอมากขึ้น จึงไอเป็นชุด ๆ ไม่มีเสมหะ หรือมีน้อยมาก
  • ไอมีเสมหะตอนกลางคืน
    มักสัมพันธ์กับ น้ำมูกไหลย้อนจากไซนัส/หวัด/ภูมิแพ้ หรือหลอดลมอักเสบระยะแรก เสมหะเหนียวข้นทำให้รู้สึกคออุดตัน นอนไม่ได้ ต้องลุกขึ้นนั่งไอระบายเสมหะบ่อย ๆ

ตัวกระตุ้นในห้องนอนของคุณ

  • ไรฝุ่น/ขนสัตว์/เชื้อรา บนที่นอน หมอน ผ้าม่าน พรม
  • อากาศแห้ง จากเครื่องปรับอากาศหรืออุณหภูมิต่ำ
  • สารระคายเคมี (สเปรย์ทำความสะอาด น้ำหอม กลิ่นสี)
  • ท่าทางนอนราบ กระตุ้นทั้งน้ำมูกไหลย้อนและกรดไหลย้อน
  • ควันบุหรี่/มลพิษ PM2.5 ที่เล็ดรอดเข้ามา

คำแนะนำจากหน่วยงานสาธารณสุขเน้นลดสิ่งกระตุ้น แยกต้นตอ และจัดการสุขอนามัยทางเดินหายใจอย่างเคร่งครัด (เช่น ปิดปาก–จมูกเมื่อไอ/จาม ล้างมือบ่อย ๆ) เพื่อลดการแพร่เชื้อและอาการระคายเคืองต่อเนื่อง


10 วิธีแก้ไอตอนกลางคืน ใช้ง่าย ปรับใช้ได้ทันที

ผู้หญิงนอนหลับสบายอยู่บนเตียง-มีเครื่องฟอกอากาศตั้งอยู่ข้างเตียง

1. ยกศีรษะเวลานอน

หนุนหมอน 2 ใบ หรือใช้หมอนลิ่มช่วยยกศีรษะ ~10–15 ซม. ช่วยลดการไหลย้อนของเสมหะและกรด ลดอาการ อาการไอตอนกลางคืน อย่างเห็นได้ชัด

2. รักษาความชื้นห้องนอนให้อยู่ที่ 40–60%

ใช้เครื่องเพิ่มความชื้นแบบฉบับที่สะอาดและดูแลสม่ำเสมอ เพื่อให้อากาศไม่แห้งเกินไปและลดโอกาส ไอแห้งตอนกลางคืน เกิดซ้ำ

3. ใช้เครื่องฟอกอากาศ HEPA

เปิดเครื่องฟอกอากาศที่มีแผ่นกรอง HEPA ก่อนนอน ช่วยกรองฝุ่น ไรฝุ่น หรือสิ่งระคายเคืองที่กระตุ้นให้เกิดอาการ ไอมีเสมหะตอนกลางคืน

4. งดทานอาหารหนักก่อนนอน

หลีกเลี่ยงอาหารเย็นหนัก ๆ หรืออาหารไขมัน/เผ็ดอย่างน้อย 2–3 ชั่วโมงก่อนนอน เพื่อลดโอกาส ไอจากกรดไหลย้อน (GERD) ช่วงกลางคืน

5. พยายามนอนตะแคงซ้าย

การนอนตะแคงซ้ายช่วยลดการไหลย้อนของกรดได้ดีขึ้น (เปรียบเทียบกับท่านอนราบ) ซึ่งช่วยลดอาการ ไอเรื้อรังตอนกลางคืน สำหรับผู้ที่เป็น GERD โดยเฉพาะ

6. ดื่มน้ำอุ่นหรือชาคาเฟอีนต่ำก่อนนอน

ให้ความชุ่มชื้นกับคอ ช่วยให้เสมหะไม่เหนียว และลดการไอซ้ำ อาจดื่มน้ำอุ่นหรือชาคาเฟอีนต่ำก่อนนอนเล็กน้อย

7. ใช้น้ำผึ้ง 1 ช้อนชา (สำหรับเด็ก 1 ปีขึ้นไปและผู้ใหญ่)

งานวิจัยสนับสนุนว่าน้ำผึ้งช่วยลด อาการไอไม่หยุดตอนกลางคืน ได้อย่างปลอดภัย (เด็กอายุต่ำกว่า 1 ปีห้ามให้ เนื่องจากเสี่ยงโบทูลิซึม)

8. ล้างจมูกด้วยน้ำเกลืออุ่น

ช่วยลด น้ำมูกไหลย้อน ที่มักสะสมตอนกลางคืน ลดการระคายคอและเสียงไอในช่วงนอน

9. ลดตัวกระตุ้นในห้องนอน

ลดไรฝุ่น – ซักผ้าปู/ปลอกหมอนน้ำร้อน 60°C ใช้ปลอกกันไรฝุ่น ปรับห้องให้สะอาด ปราศจากกลิ่นหรือฝุ่นกระตุ้นอาการ ตรงตามคำแนะนำของ CDC ในการควบคุมภูมิแพ้

10. ใช้ยาภายใต้คำปรึกษาแพทย์เฉพาะกรณี

  • ยาแก้แพ้ (antihistamine non-drowsy) หรือสเตียรอยด์พ่นจมูกสำหรับไซนัส/น้ำมูกไหลย้อน
  • ยาลดกรดหรือ PPI สำหรับ GERD (ภายใต้คำสั่งแพทย์)
  • ยาหอบหืดปรับควบคุมหลอดลม สำหรับไอจากหอบหืด

ไอไม่หยุดตอนกลางคืน เมื่อไหร่ต้องไปพบแพทย์

เตือนสัญญาณอันตราย (red flags) จากคำแนะนำด้านอาการไอของหน่วยงานสาธารณสุข:

  • ไอนานเกิน 3 สัปดาห์ (ไอเรื้อรัง) หรือไอหนักขึ้นอย่างรวดเร็ว
  • หายใจลำบาก/เจ็บหน้าอก/มีไข้สูง/รู้สึกป่วยมาก
  • ไอมี เลือดปน, น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ, มีโรคประคับประคองภูมิคุ้มกันต่ำ
  • เด็กเล็ก/ผู้สูงอายุ/หญิงตั้งครรภ์/ผู้ป่วยโรคหัวใจ-ปอด ควรระมัดระวังเป็นพิเศษ

ทำไมกลางคืนคือช่วงเสี่ยง

1) น้ำมูกไหลย้อน (Post-nasal Drip)

เมื่อนอนราบ น้ำมูกจากโพรงจมูก/ไซนัสไหลลงคอ ทำให้ ไอแห้งตอนกลางคืน หรือ ไอมีเสมหะ สลับกัน แนวทางคือคุมภูมิแพ้ (ยาพ่นสเตียรอยด์/ยาต้านฮิสตามีนรุ่นไม่ง่วง), ล้างจมูกน้ำเกลือ, งดตัวกระตุ้น (ไรฝุ่น ขนสัตว์ กลิ่นแรง) และยกศีรษะนอนสูงขึ้น

2) กรดไหลย้อน (GERD)

กรดจากกระเพาะหกย้อนขึ้นคอเมื่อนอน กระตุ้นไอเรื้อรังตอนกลางคืนและเสมหะข้น แนวทางคือ เว้นมื้อดึก 2–3 ชม. ก่อนนอน, นอนตะแคงซ้าย, ยกหัวเตียง, ลดอาหารมัน/เผ็ด/กาแฟ/แอลกอฮอล์ และหากจำเป็นอาจใช้ PPI ภายใต้คำแนะนำแพทย์ โดยการตอบสนองอาจต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์

3) หอบหืด/หลอดลมไวเกิน

ฮอร์โมน/การอักเสบของหลอดลมแกว่งตอนกลางคืนทำให้ไอและแน่นหน้าอกง่ายขึ้น ต้องปรับยา “ควบคุมโรค” ไม่ใช่พึ่งเฉพาะยาขยายหลอดลมแบบฉุกเฉิน และจัดห้องนอนให้ ปลอดตัวกระตุ้นภูมิแพ้ (ไรฝุ่น/ขนสัตว์/เชื้อรา)

4) การติดเชื้อทางเดินหายใจเฉียบพลัน/หลอดลมอักเสบ

ส่วนใหญ่ หายเองใน ~2–3 สัปดาห์ การดูแลตนเองที่มีหลักฐานสนับสนุน ได้แก่ พักผ่อน ดื่มน้ำมาก ๆ อบไอน้ำ/อาบน้ำอุ่น ใช้เครื่องทำความชื้นที่สะอาด น้ำเกลือพ่นจมูก น้ำผึ้งก่อนนอน และอมลูกอมแก้เจ็บคอ (เด็กเล็กหลีกเลี่ยง) ตามคำแนะนำจาก CDC/Mayo Clinic; ยาปฏิชีวนะมัก ไม่จำเป็น ในหลอดลมอักเสบไวรัส


เช็กลิสต์ “ก่อนเข้านอน” สำหรับคนที่ไอจนนอนไม่หลับ

  • เปิดเครื่องฟอกอากาศ
  • เปลี่ยนปลอกหมอนเป็น ปลอกกันไรฝุ่น และปัดฝุ่นหัวเตียง
  • อาบน้ำอุ่นสั้น ๆ ล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ
  • ดื่มน้ำอุ่น/ชาคาเฟอีนต่ำ และ งดมื้อดึก
  • หนุนหมอนให้ศีรษะสูง หรือใช้ หมอนลิ่ม
  • ตั้งความชื้นห้อง ~40–60% ด้วยเครื่องทำความชื้นที่ ทำความสะอาดแล้ว

สรุป

วิธีแก้ไอตอนกลางคืน ที่เวิร์กจริงเริ่มจาก จัดการต้นเหตุ ปรับห้องนอน (อากาศสะอาดด้วย HEPA, ความชื้นพอดี, งดกลิ่นรบกวน) และปรับพฤติกรรมก่อนนอน (งดมื้อดึก ยกศีรษะ นอนตะแคงซ้าย ดื่มอุ่น ๆ/น้ำผึ้ง). หากยัง ไอเรื้อรังตอนกลางคืนเกิน 3 สัปดาห์ หรือมี อาการรุนแรง ควรพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยและรักษาสาเหตุที่แท้จริงตามหลักฐานการแพทย์สมัยใหม่.

Peemanus Tongpiem

Peemanus Tongpiem

เราให้ความสำคัญกับอาหารที่เรารับประทาน 3 มื้อต่อวัน แต่เรากลับละเลยอากาศที่เราใช้หายใจมากกว่า 10 ครั้งต่อนาที เป็นเหตุให้ผมเริ่มค้นคว้าและเผยแพร่ความรู้เรื่องมลพิษทางอากาศ เพื่อให้ผู้คนตระถึงความสำคัญของการใช้เครื่องฟอกอากาศเพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น